ตะขาบ

ตะขาบ

               ตะขาบ Centipedes เป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังอยู่ในไฟลัมอาร์โธรพอด ตะขาบเป็นสัตว์ที่หลายคนพบเห็นได้ทั่วไปซึ่งเป็นสัตว์ขาข้อที่มักจะพบได้ตามพื้นที่เขตร้อนชื้น เมื่อตัวโตเต็มวัยจะมีขนาดประมาณ 3-8 ซม. ลักษณะลำตัวแบนราบแบ่งเป็นปล้อง ๆ และแต่ละปล้องจะมีขาคู่ มีหนวด 1 คู่ เขี้ยนวพิษ 1 คู่ สามารถปล่อยพิษออกมาเพื่อททำให้เหยื่อรู้สึกเจ็บปวดในบางสายพันธุ์สามารถทำให้อัมพาตได้ และรอยที่ถูกกัดจะเป็นรอบวงสีแดงและมีจุดเลือดออกบริเวณที่ถูกกัด โดยมีหลายสายพันธุ์
               ตะขาบเป็นนักล่าที่ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดใหญ่ที่ชอบออกหาอาหารในเวลากลางคืน ส่วนเวลากลางวันจะซ่อนตัวในพื้นที่ชื้นเช่นใต้ก้อนหิน หรือกองไม้ผุ สำหรับอาหารของตะขายได้แก่ จิ้งจก แมลง หนู แมงมุม นก แม้แต่ค้างคาว โดยการกัดแล้วปล่อยพิษให้เป็นอัมพาดแล้วค่อนกัดกินเหยื่ออย่างใจเย็น ทีั้งนี้ทั่วโลกจะมีตะขาบมากถึง 8,000 ชนิดและถูกบันทุกไว้ประมาณ 3,000 ชนิด โดยพบทั่วไปในทั่วโลก ตะขาบวงศ์ Scutigeromorpha และ วงศ์ Lithobiomorpha จะออกไข่ในหลุมแล้วปล่อยให้ฟักเอง ส่วน ตะขาบวงศ์ Geophilomorpha และ Scolopendromorpha จะดูแลลูกจนกว่าจะออกไปหาอาหารเองได้ หรือบางครั้งก็มีกินลูกเป็นอาหารเช่นกัน


  • Scutigeromorpha เป็นกลุ่มของตะขายาวที่มีขาเพียง 15 คู่ สามารถวิ่งได้เร็วและมีดวงตาเหมือนกับแมลงที่มองเห็นได้ชัด ขายาวต่างจากตะขาวทั่วไปที่เราเคยพบ

  • Lithobiomorpha เป็นวงศ์ที่มีลักษณะเหมือนกับตะขาบทั่วไป มีลำตัวทั้งหมด 15 ปล้อง มีรูเปิดด้านข้าางลำตัวทุก ปล้อง เพื่อทำหน้าที่ในการรับแรงสั่นสะเทือนทั้งนี้ไม่มีตาประกอบ จึงรับรู้ในการความปลอดภัยจากรอบตัวได้ดี

  • Craterostigmomorpha เป็นตะขาบที่อยู่ในสภาพแวดล้อมนิวซีแลนด์และแทสมาเนีย จะมีลำตัวประมาณ 12-15 ปล้อง และลอกคราบและคงอยู่สภาพในตัวเต็มวัยเท่านี้

  • Scolopendromorpha เป็นกลุ่มตะขาบที่มีลำตัวของปล้องลำตัว 21 ปล้อง และมีขา 1 คู่ทุกปล้อง และสามารถตรวจรับแรงสั่นสะเทือนได้ในทุกปล้อง เพื่อความปลอดภัยในการรับรู้ถึงภัยมาเยือน พิเศษด้วยการมีตาแบบเซลรับแสงข้างละ 4 ดวง

  • Geophilomotpha เป็นกลุ่มตะขาบที่มีขนาดใหญ่ โดยมีจำนวนขามากที่สุดถึง 27 คู่ จะไม่มีตาให้มองเห็นแต่จะรับรู้ได้ถึงสิ่งรอบตัวจากการมีรูเปิดซึ่งเป็นการรับแรงสั่นสะเทือนอย่างดีและบางตัวอาจมีขามากถึง 29 คู่

           สำหรับการอยู่อาศัยของตะขาบที่มีอยู่ทั่วไปมักจะอาศัยในพื้นที่ชื้นแฉะเป็นส่วนมากและระดับความร้ายแรงของพิษที่ต่างกันตามแต่ละชนิดของสายพันธุ์ที่ค้นพบ






ความคิดเห็น