กระทิง
กระทิง เป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
นับว่าเป็นวัวป่าชนิดหนึ่งที่อยู่ในวงศ์ Bovidae โดยมีลักษณะลำตัวมีขนยาวแกมน้ำตาล
เว้นตรงส่วนบริเวณหน้าผากที่จะมีสีโดดเด่น ส่วนครึ่งล่างของขาทั้งสองจะมีสีขาวอ่อน
ๆ ที่เหลือง ๆ เหมือนกับสีทองหรือเรียกว่า หน้าโพ ที่มีทั้ง 4 ขา
ระดับความยาวสูงตั้งแต่เท้าไปจนถึงเข่า จึงเป็นสัตว์ที่มีความสวยงามและดูดุดันในบางครั้ง
อย่างที่เรามักจะเห็นในความร้ายกาจของกีฬาการรสู่วัวกระทิงนั่นเอง
สำหรับสีที่หน้าผากและที่เท่าของวัวกระทิงนั้นเกิดมาจาคราบน้ำมันในเหงื่อ
ส่วนเขานั้นจะมีสีเข้มส่วนปลายเขานั้นจะมีสีสดและมีรอยย่นจะเห็นได้ว่ายิ่งแก่ยิ่งเห็นรอยย่นได้ชัดขึ้นตามวัย สำหรับกระทิงตัวผู้และกระทิงตัวเมียจะมีขนาดที่เล็กใหญ่ไม่เท่ากัน
หากเป็นลูกก็จะมีสีน้ำตาลแดงจะเหมือนกับสีขนของเก้ง
และมีสีดำพาดหลังส่วนถุงเท้าจะยังไม่มีเหมือนกระทิงที่ตัวโตเต็มวัย ขนาดลำตัวของกระทิงจะมีขนาดความยาวประมาณ 250-300 ซม.
ส่วนความยาวของหาง 70-105 ซม. น้ำหนักประมาณ 650-900 กม.
สำหรับการกระจายพันธุ์มีทั่วไปแต่จะมีจำนวนที่น้อยลงอย่างมากและมีทั้งหมด 5
สายพันธุ์ คือ
- Bos gaurus laosiensis จะพบกันในประเทศพม่าจนถึงประเทศจีน
- Bos gaurus gaurus จะพบกันในประเทศอินเดียและเนปาล
- Bos gaurus readei
- Bos gaurus hubbacki สามารถพบได้ในไทยและมาเลเซีย
- Bos gaurus frontalis หรือที่เรียกกันว่ากระทิงเขาทุย เพราะเป็นลูกผสมระหว่างกระทิงกับวัวบ้าน พบได้ในประเทศอินเดีย
ลักษณะนิสัยของกระทิงที่มักจะรวมตัวอยู่กันเป็นฝูง ตั้งแต่ 2-60 ตัว
ซึ่งจะมีทั้งลูก เมีย และการเดินทางออกหาอาหารตามพื้นที่สูง และมักจะเลือกเดินออกหากินตลอดสลับกับการเดินและการนอนหลับพักผ่อนตลอดทั้งวัน
ซึ่งการนอนมักจะเป็นท่ายืนหลับหรือจะเลือกนอนราบกับพื้น
และแหล่งอาหารของพวกมันจะไม่ไกลจากแหล่งน้ำเพราะว่าอดน้ำได้ไม่เก่งจึงเน้นไปยังพื้นที่มีบ่อน้ำหรือแอ่งน้ำจากธรรมชาติ
หากเป็นยอดไม้อ่อนและหญ้าระบัดที่ขึ้นตามทุ่งหญ้า
จึงเป็นแหล่งอาหารที่ได้รับความสนใจอย่างมาก
ปัจจุบันนี้คาดว่าจะมีกระทิงอยู่ทั่วโลกประมาณ 13,000 - 30,000 ตัวและมีจำนวนลดลงอย่างมาก ส่วนประเทศไทยมีจำนวนเหลือไม่มากเท่าไหร่
ส่วนหนึ่งมาจากการถูกรุกล้ำและการติดเชื้อโรคระบาดจากวัวปากเท้าเปื่อย
ซึ่งเป็นเหตุผลทำให้หลายหน่วยงานทางภาครัฐได้ให้ความสำคัญและอนุรักษ์กระทิงเอาไว้และเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น