จั๊กจั่น

จั๊กจั่น

               จั๊กจั่น เป็นแมลงที่มีดวงตาขนาดใหญ่และมีอยู่ด้านข้างของหัว ส่วนประสาทการรับรู้ที่ดีมากจะติดอยู่ที่บนปีก ทั้งนี้การค้นพบจั๊กจั่นประมาณ 1,300 ชนิด สำหรับพื้นที่การอยู่อาศัยในบริเวณเขตร้อน ถือว่าเป็นแมลงที่คนไทยหลายคนคุ้นเคยกับเสียงร้องในช่วงหน้าร้อนอย่างดี เพราะส่งเสียงได้ไพเราะอย่างมาก ในบางพื้นที่ก็นิยมรับประทานเป็นอาหารหรือเลือกทานเพราะเชื่อว่าเป็นยาบำรุงร่างกาย
               จั๊กจั่น ที่เชื่อกันว่าถือ กำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้มากกว่า 230 ล้านปี โดยมีลักษระการดำรงชีวิตที่อาศัยการกินน้ำเลี้ยงพืชเป็นอาหาร ส่วนมากจะอาศัยอยู่ใต้ดินในช่วงเวลากลางคืน สำหรับการทำรังของจั๊กจั่นจะเห็นเป็นรูปรังทรงสูงที่ก่อขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมรูตนเองในช่วงหน้าฝนที่มีความคล้ายกับรังของไส้เดือน ทั้งนี้แต่ละสายพันธุ์จะมีหน้าตาและอายุที่ต่างกันออกไป


  • จักจั่นดง มีลักษณะตัวใหญ่ สีดำ อายุประมาณ 15 ปี

  • จักจั่นงวง เป็นแมลงที่มี่ความสวยงามและรูปร่างแปลกตา ปีกมีลักษณะเป็นเยื่อ มีลวดลาย สีสัน

  • จักจั่นช้าง  มีลักษณะตัวใหญ่ สีเขียวอายุประมาณ 10 ปี

  • จักจั่นโคก มีลักษณะสีเหลืองเปลือกไม้ อายุประมาณ 6-7 ปี

  • จักจั่นเรไร มีลักษณะตัวขนาดเล็ก สีน้ำตาลอมเขียว อายุประมาณ 2 ปี

  • จักจั่นฝรั่ง (จักจั่นเมืองหนาว ) มีลักษณะตัวใหญ่สีดำลายแดง มีอายุประมาณ 17 ปี

               สำหรับจั๊กจั่น จะมีลักษณะที่เห็นได้เด่นชัด โดยที่ปีกคู่หน้าจะมีลักษณะที่บางใสตัวเมียจะมีลักษณะก้นแหลม มีระยางค์ไว้สำหรับใช้ในการวางไข่  ส่วนก้นของตัวผู้จะมีขนาดที่เสมอกับตัว ส่วนปากจะเป็นแบบปากดูด มีตาเดี่ยวที่เรียงกันเป็นรูปสามเหลี่ยม จั๊กจั่นที่เรานั้นได้ยินเสียงร้องจะมาจากเสียงของตัวผู้ที่มีพลังเสียง 200 เดซิเบล โดยที่แต่ชะชนิดก็จะมีเสียงร้องต่างกัน จึงทำให้ฟังเสียงแล้วรู้สึกไพเราะอย่างมาก
              ส่วนวงจรชีวิตที่มีทั้งหมด 3 ระยะคือ ระยะไข่ จะเป็นการออกไข่ตามเปลือกไม้ ขอนไม้ ตัวอ่อนจะเป็นการเข้ามาอยู่อาศัยใต้ดิน เพื่อหาน้ำจากรากไม้เข้ามาหล่อเลี้ยงในช่วงนั้นและในช่วงระยะตัวอ่นจะมีอายุนานถึง 4-6 ปี เมื่อโตเต็มวัยก็จะคลานออกมาจากรังและบินขึ้นไปยังที่สูงเพื่อต้องการลอกคราบ ก่อนที่จะสว่าง สำหรับป่าที่เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยคือ ป่าโปร่ง ป่าเบญจพรรณ ที่มีต้นกุง ส่วนมากจะอาศัยอยู่ในดิน และยังช่วยให้ระบบนิเวศของใต้ดินนั้นมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากขึ้นและยังช่วยสร้างเสียงบรรเลงภายในป่าได้อย่างไพเราะ

ความคิดเห็น